ทริปนี้เดินทางจากกรุงเทพตรงไปมาเก๊าเลย ทำให้มีเวลาเต็ม ๆ วันในการเที่ยวให้ทั่วมาเก๊า ลองดูว่าหนึ่งวันนี้จะสามารถเก็บสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ได้เท่าไหร่น่ะค่ะ
เช้า ๆ เราเริ่มจากการเข้าวัดเข้าวากันก่อนเลยน่ะค่ะ เราจะเดินทางไปวันอาม่ากันค่ะ
ที่พักของเราอยู่บนเกาะ Taipa รถเมล์ที่สามารถนั่งไปถึงวันอาม่าคือสาย 11
รถเมล์สายอื่น ๆ ที่สามารถพาเราไปยังวัดอาม่ามีดังนี้ : 1, 1A, 2, 5, 7, 10, 10A, 11, 18, 21, 21A, 26, 26B, 34
ตามสถานที่สำคัญ ๆ หรือแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ เค้าจะมีรูปและเบอร์ป้ายที่เราจะต้องลงให้เห็นเด่นชัดขึ้น
ส่วนจุดสีส้ม ๆ นั้นจะเปลี่ยนไปทุก ๆ ป้าย ทำให้เราดูได้ง่ายขึ้นว่าตอนนี้ถึงป้ายที่เท่าไหร่แล้ว
ไม่ยากค่ะ ลองดูน่ะค่ะ
ค่าโดยสารประมาณคนละ 5 เหรียญ ข้ามจากเกาะ Taipa มาใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้ว
วัดอาม่าจะอยู่ที่ Barra Square
เดินตรงมาแล้วมองไปทางซ้ายจะเห็นลานกว้างหน้าวัด
มาถึงก็เจอกับผู้คนเยอะแยะไปหมดเลย พอคนน้อยก็รีบเก็บภาพไว้ก่อน
บรรยากาศโดยรอบ ในส่วนของวัดจะมีขึ้นไปเรื่อย ๆ บนเขาด้วยค่ะ แต่ว่าสังขารไม่อำนวย เลยได้แต่ชมด้านล่าง
วัดอาม่า หรือศาลเจ้าแม่ทับทิม เป็นวัดที่ใหญ่และสำคัญแห่งหนึ่งของมาเก๊าที่นิยมมากราบไหว้ ซึ่งถือว่าเป็นเทพธิดาแห่งท้องทะเล ในวัดจะมีก้อนหินก้อนใหญ่แกะสลักเป็นรูปเรือประมงด้วย
ชมรีวิวของ Katchan เกี่ยวกับการสักการะองค์อาม่าได้ที่นี่ค่ะ
Re: ไปสักการะองค์ A-Ma ศูนย์รวมจิตใจชาวมาเก๊า ที่เขาบาร์รากัน
http://www.hongkongfanclub.com/index.php?topic=8237.0
นอกจากที่ร้านค้าจะมีธูปเทียนให้จุดบูชาแล้ว ยังมีโมบายให้เราเขียนคำอธิฐานและนำไปแขวนไว้ในวัดนี้ด้วย
คำอธิษฐานมีทุกชาติทุกภาษาเลย
มาขอพรกันค่ะ
นอกจากตัววัดแล้ว ยังมีพิพิธภัณฑ์ด้วย แต่เวลาไม่เอื้ออำนวย
มีเรือจำลอง และศิลปะวัตถุเก่าแก่อีกมากมาย
มาถึงอ่างน้ำมหัศจรรย์ใบนี้ เค้าให้ลองเอามือแตะน้ำและอธิษฐาน จากลูบที่หูอ่างทั้ง 2 ข้างดู ถ้าเกิดน้ำสั่นสะเทือนก็จะสมปราถนา
มีใครเคยไปลองมาบ้างค่ะ?
ลองดู VDO นะคะ
ได้เวลาพอสมควรก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงกันข้าม นั่งสาย 11 กลับไปที่ Senado Square
จุดนี้หาที่ลงไม่ยากน่ะค่ะ Senado Square จะอยู่ฝั่งซ้ายมือ ถ้าเรามองเห็นลานกว้าง ๆ แบบนี้รีบลุกขึ้นลงป้ายต่อไปได้เลย
บรรยากาศด้านหน้า
จตุรัส เซนาโด หรือ Senado Square นี้จะเป็นศูนย์กลางของชาวมาเก๊ามานานมาก ที่นี่จะใช้เป็นสถานที่จัดกิจกรรมและงานเฉลิมฉลองต่าง ๆ มากมาย โดยพื้นจะปูด้วยหินสีขาวและดำลายคลื่นไปยาวตลอดทาง
บริเวณนี้จะมีร้านอาหารไม่ค่อยเยอะ ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ราชการและร้านค้าให้เราได้ช๊อปปิ้งกัน
ขอแนะนำร้านอาหาร 2 ร้านแถว ๆ นี้น่ะค่ะ เผื่อแวะไปทานกัน
Wong Chi Kei ก๊วยเตี๋ยวผัดเนื้อ + แซนวิชหมูทอด
https://www.macaofanclub.com/index.php/2014/03/22/wong-chi-kei-3/
ส่วนอีกร้านที่อยู่ในซอยด้านข้าง McDonald’s นี้ รอรีวิวจากลุงเด้งน่ะค่ะ
สินค้าส่วนใหญ่แถว ๆ นี้จะเป็นเสื้อผ้า เครื่องสำอางค์เพียบ
เดินตรงเข้ามาเลี้ยวซ้ายตามทางก็จะเป็น โบสถ์ เซนต์ โดมินิค (St. Dominic’s Church) ภายในโบสถ์สามารถเข้าชมได้ สวยงามมากค่ะ
เวลาเปิดทำการ : 10:00 – 18:00 น.
เดินตามทางมาเรื่อย ๆ ก็จะเริ่มเห็นร้านขายของทานเล่นให้เราพอหายหิวได้บ้าง
ทาร์ตไข่ร้านนี้ราคาเพียง 5 เหรียญเท่านั้น เดินผ่านทีไรคนก็มุงหน้าร้านเต็มไปหมด
เบอร์เกอร์หมูทอดก็ขึ้นชื่อ แต่เนื่องจากอิ่มมาจากร้าน Wong Chi Kei แล้วก็เลยขอเป็นน้ำชาไข่มุกเย็น ๆ คนละแก้วก็พอ
หลังจากเลี้ยวซ้ายตามทางมาเจอร้านของว่าง คราวนี้เลี้ยวขวาตามทางเข้ามาเจอกับดงของฝาก ชิมฟรีกันได้ทุกร้าน คนขายฟรีเซ้นต์สินค้ากันสุด ๆ
ดูภาพตัวอย่างก่อนน่ะค่ะ แถวนี้ใครไปต้องไม่พลาดซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันเกือบทุกคนค่ะ
เมื่อผ่านดงของฝากมาแล้ว เดินตรงต่อไป เบื้องหน้าก็จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของมาเก๊า
ซากประตูโบสถ์ เซนต์ ปอล (Ruins of St. Paul’s)
ซากประตูโบสถ์นี้คือด้านหน้าส่วนที่เหลือของโบสถ์มาแตร์เดอิ และเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัยเซนต์ ปอล ต่อมาถูกทำลายและเกิดเพลิงไหม้จนเหลือแต่ด้านหน้า ฐานโบสถ์ และบันไดด้านหน้าของตึก
เราสามารถขึ้นบันไดไปชมภาพมุมสูงของมาเก๊าได้จากทางด้านหลังซากโบสถ์นี้ด้วยค่ะ
ภาพนี้มองจากด้านบนทำให้ได้เห็นมุมแปลก ๆ ออกไป
คราวนี้เดินย้อนกลับมาผ่านถนนของฝาก – ร้านขายทาร์ตไข่ยิ้ม และเดินออกไปทางด้านหน้าของ Senedo Square กันค่ะ
เมื่อเดินออกมาถึงน้ำพุหน้าทางเข้า Senedo Square แล้ว ให้เดินต่อไปทางซ้ายมือตามทาง
จากนั้นข้ามถนนที่สี่แยกไฟแดงแล้วเดินตรงต่อไป
ประมาณ 1 หรือ 2 บล๊อกร้านมุมจะเป็นร้านขายเครื่องประดับ Lukfook Jewellery ให้เดินเข้าซอยมานิดเดียว
แล้วข้ามถนนเข้าซอกตึกตามภาพ
เข้าซอกตึกมาเราก็จะพบกับร้านขายทาร์ตไข่ร้านดังร้านหนึ่งของมาเก๊า
Margarat’s Cafe e Nata
ชมรีวิวของลุงเด้งได้ที่นี่ค่ะ
ร้านนี้มีำตำนาน “ทาร์ตไข่” Margaret’s Café e Nata
https://www.macaofanclub.com/index.php/2014/03/22/margaret-cafe-nata/
จากนั้นกลับมาที่ถนนใหญ่แล้วเดินต่อไปยัง LISBOA
เดินไปไม่ยากค่ะ พยายามเงยเงยหน้ามองยอดตึกไปเรื่อย ๆ ยอดตึก Casino Lisboa จะเห็นเด่นเป็นสง่าตั้งแต่เราออกจาก Senado Square แล้วค่ะ
จากนั้นก็เดินเข้าไปในอุโมงค์ลอดข้ามถนนไปอีกฝั่งหนึ่ง เพื่อไปยัง Wynn Casino
ถึงแล้วค่ะ Wynn Casino อุโมงค์ทางลอดจะอยู่หน้าโรงแรมเลย
ด้านหน้าโรงแรมจะมีโชว์น้ำพุ และด้านในโรงแรมก็จะมีโชว์ให้ชมด้วยเช่นกัน แต่ว่าเดี๋ยวค่อยกลับมาใหม่ โชว์น้ำพุหน้าโรงแรมน่าจะชมได้บรรยากาศที่สุดในเวลากลางคืน
มองไปฝั่งตรงข้ามที่ข้ามมา นั่นก็คือ Casino Lisboa นั่นเอง
จากนั้นเราก็เดินเลียบชายฝั่งไปเรื่อย ๆ จุดมุ่งหมายต่อไปคือเจ้าแม่กวนอิมกลางน้ำค่ะ
ภาพนี้คือวิวด้านขวามือเลียบไปตลอดทาง
ผ่านร้านค้า Brand Name ต่าง ๆ มากมาย
เดินเลี้ยวซ้ายตามถนนผ่าน MGM Grand ตรงนี้จะเป็นถนน Avenida Dr. Sun Yat Sen
ที่นี่ไม่ได้แวะเข้าไปชมด้านในเลย เนื่องจากกลัวแสงจะหมด ยังเหลืออีก 2 ที่ที่ยังต้องไปเที่ยวกันวันนี้คือ เจ้าแม่กวนอิม และ Fisherman’s Wharf
จากตรงนี้สามารถมองเห็นองค์เจ้าแม่กวนอิมแล้วค่ะ จะอยู่ฝั่งขวามือของเรา เดินต่อไปอีกไม่ไกล
ข้ามถนนตรงไฟแดงมาก็ถึงแล้ว
ถึงแล้วค่ะ เจ้าแม่กวนอิม (Kun Iam Statue)
เจ้าแม่กวนอิมองค์นี้ประดิษฐานอยู่บนใบบัว และยื่นออกไปในทะเล องค์นี้โปรตุเกสสร้างให้เพื่อเป็นอนุสรณ์ในโอกาสคืนมาเก๊าให้กับจีนแผ่นดินใหญ่ เจ้าแม่กวนอิมปางนี้จะมีพระพักษ์คล้ายกับชาวตะวันตก คนมาเก๊าจึงเรียกเจ้าแม่กวนอิมปางนี้ว่า เจ้าแมกวนอิม ปางพระแม่มาเรีย
รถเมล์ที่ผ่าน : 1A, 8, 17, 23
ใต้ฐานของเจ้าแม่กวนอิมจะมีพิพิธภัณฑ์ทางศาสนา รวมทั้งประวัติความเป็นมาของการก่อสร้าง เปิดให้เช้าชมทุกวันเวลา 10:00 – 19:00 น.
บริเวณรอบ ๆ ก็จะมีม้านั่งให้พักผ่อนหย่อนใจกันได้ ก็เลยขอเวลานั่งตรงนี้พักขาไปในตัว
เมื่อได้เวลาพอสมควร พระอาทิตย์ก็ใกล้จะตกดินแล้ว คงต้องรีบทำเวลากันนิด ออกเดินทางต่อไปยัง Fisherman’s Wharf กัน
ภาพนี้หันหลังให้เจ้าแม่กวนอิม ด้านซ้ายก็จะเป็น MGM Grand ที่เราได้เดินผ่านมา เราจะต้องเดินตามถนนต่อไปทางขวามือค่ะ
เดินตามถนน Avenida Dr. Sun Yat Sen ต่อมาเรื่อย ๆ จะเป็นทางโค้งก็เลี้ยวซ้ายตามถนนไปเลยค่ะ
เลี้ยวซ้ายมาก็จะพบกับตึกสีเหลืออร่ามตั้งอยู่ตรงหน้า นั่นก็คือ Sands Casino นั่นเอง
หน้า Sands จะเป็นลานจอดรถกว้าง และทางเข้าไปยัง Sands Casino
เยื้อง ๆ กับ Sands Casino ก็จะมี Babylon Casino ซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับ Fisherman’s Wharf
ถัดจาก Babylon Casino ก็จะเป็น Fisherman’s Wharf จุดมุ่งหมายของเราค่ะ
บริเวณนี้คือการถมทะเลทั้งหมด ภายใน Fisherman’s Wharf จะประกอบด้วยแหล่งช๊อปปิ้ง ร้านค้าประเภทต่าง ๆ ร้านขายของที่ระลึกและร้านอาหารมากมาย
รถเมล์ที่ผ่าน : 1A, 3, 3A, 10, 10A, 10B, 12, 23, 28A, 28B, 28BX, 28C, 32, AP1
ภายในจะมี Rocks Hotel ดูแล้วบรรยากาศดีทีเดียว
บรรยากาศภายในดูร่มรื่น เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก
ส่วนนี้จะเป็น Casino ค่ะ
ภายในนอกจากจะมีร้านค้ามากมายแล้ว ยังมีร้านอาหารหลากหลายประเภทด้วย
ช่วงที่ไปถึงเป็นช่วงเย็น ๆ พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว อากาศเลยไม่ร้อน เดินชมกันไปเรื่อย ๆ
Sands Casino ฝั่งตรงข้ามใหญ่มาก เดินไปจุดไหนใน Fisherman’s Wharf ก็เห็น
เดินไปเรื่อยย ๆ จนถึงโซน Roman Amphitheatre รวมทั้งสวนสนุก Underground Amusement Centre และศูนย์ประชุม
โรงละครโรมัน แบบเดียวกับสนามกีฬาโคลอสเซี่ยมในกรุงโรม
บริเวณนี้จะเป็นลานโล่ง ด้านข้างก็จะมีร้านค้า ร้านอาหาร และคาสิโนก็มี
ด้านใน Roman Amphitheatre จะมีเวทีการแสดงพร้อมอัฒจันทร์
พระอาทิตย์ตกดินแล้ว เดี๋ยวเราย้อนกลับไปที่ Wynn Casino ไปชมโชว์กันดีกว่าค่ะ
จากหน้า Fisherman’s Wharf ฝั่งโรงละครโรมัน เรานั่งรถเมล์สาย 10A ไปลงที่ด้านหลังของ Wynn Casino
ดูไม่ยากค่ะ คอยมองสูง ๆ หาตึก Casino Lisboa เอาไว้พอใกล้ถึงก็ลงเลย แล้วเดินต่อไปอีกหน่อยให้ถึงด้านหน้าของ Wynn Casino
เดินมาถึงก็ได้เห็นการแสดงพอดี
Performance Lake
การแสดงน้ำพุประกอบกับแสงสีเสียง มีให้ชมทุก ๆ 15 นาที
การแสดงมีให้ชมเรื่อย ๆ ตั้งแต่ 11 โมงเช้ายังเที่ยงคืน น่าจะมีหลายชุดน่ะค่ะ ไป 3 รอบก็ 3 แบบเลย
ชุดนี้อลังการดีค่ะ รอบนี้ไปชมตอน 2 ทุ่มค่ะ แต่ละรอบใช้เวลาประมาณ 1 เพลงไม่เกิน 5 นาที
บรรยากาศแสงสีรอบ ๆ ค่ะ
คราวนี้เรามาชมโชว์อีกชุดใน Wynn Casino กัน
เราจะมาดู โชว์ต้นไม้แห่งความมั่งคั่งกัน (Tree of Prosperity)
โชว์ที่จะแสดงในส่วนของ Rotunda ไปไม่ยากค่ะ เดินตามป้ายไปเรื่อย ๆ เลย
โชว์นี้จะเป็นการแสดงแสงสีเสียงดูแล้วตระการตามากค่ะ การแสดงจะเริ่มจากด้านล่างลูกโลกเคลื่อนตัวขึ้นมาแล้วเปลี่ยนเป็นต้นไม้สีเงินและทอง แสดงถึงความมั่งคั่ง
ส่วนเพดานด้านบนจะเป็นรูปแกะสลักสัตว์ต่าง ๆ ในตำนานจีน จากนั้นก็เปิดออกมา สร้างความอลังการได้ไม่น้อย
โชว์ต้นไม้แห่งความมั่งคั่งกัน (Tree of Prosperity)
จะแสดงทุก ๆ 30 นาที ตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า ถึงตี 2 ค่ะ
จากนั้นก็ออกมาดูแสงสียามค่ำคืน
Macau ไม่เคยหลับไหล
เมื่อได้เวลาพอสมควร ก็ได้เวลากลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมแรงไว้สำหรับวันต่อ ๆ ไป จึงนั่งรถเมล์กลับไปยังที่พัก
ตรงเกาะกลางเยื้อง ๆ กับ Casino Lisboa นั้นจะมีศูนย์รวมรถเมล์หลายสายมาก ๆ พอดีถ่ายมาไม่ชัดลองดูเป็นไอเดียน่ะค่ะ
ต้องการขึ้นรถเมล์สายอะไรลองดูจากป้ายนี้น่ะค่ะ
บริเวณนี้จะมีทั้งหมด 5 ป้ายใหญ่ ๆ เรียงเป็นตัวอักษร A B C D และ E
รถเมล์สายที่เราต้องการจะขึ้นอยู่ที่ป้ายอักษรอะไรก็ไปยืนคอยตามจุดนั้น ๆ ได้เลย