Antonio ค่ำคืนที่แสนอร่อยกับอาหารโปรตุเกต โดย Chef Antonio

ค่ำคืนนี้ ลุงเด้ง ป้าไก่ ได้มีนัดทานข้าวกับ Chef Antonio เจ้าของร้านอาหารโปรตุเกตชื่อดังในมาเก๊า
Chef António Coelho เริ่มเปิดกิจการร้านอาหารที่มีชื่อว่า “Antonio” ในปี 2008 เพื่อเผยแพร่อาหาร
และวัฒนธรรมโปรตุเกตให้เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางในมาเก๊า

Chef Antonio มีประสบการณ์ทำงานมากมายในร้านอาหารของโรงแรมหรู
และร้านอาหารชั้นนำมาแล้วทั่วโลก และที่สำคัญ Chef Antonio ชื่นชอบประเทศไทยของเรามากๆ
เดินทางมาเที่ยวประเทศไทยทุกปี และมีเพื่อนคนไทยมากมาย

มาชิมอาหารกันดีกว่าครับ
Portuguese Sausage “ไส้กรอกโปรตุเกต” เป็นหนึ่งในเมนูยอดนิยมของทางร้าน
จะนำมาย่างไฟให้ชม กันทุกโต๊ะที่สั่งเลยครับ ชิ้นนี้ราคา 140 เหรียญ

ตามมาด้วย
Ameijoas à Bulhão Pato
Sautéed Clams with Garlic, Coriander, Olive Oil and White Wine Sauce
หอยลายผัดกระเทียมซอสไวน์ขาว

อาหารทานเล่น แต่อร่อยจริง (จำไม่ได้ว่า 1 จาน มีกี่ชิ้น) ราคา 145 เหรียญ
Pastéis de Bacalhau
Fried Codfish Cakes

เนื้อปลา Codfish บด ผสมกับมันฝรั่ง แล้วทำไปทอดกรอบนอกนุ่มใน ทานเล่นอร่อยมากไม่ต้องปรุงอะไรเลย

Arroz de Marisco à “António” Servido em Tacho de Barro
Wet Seafood Rice “Antonio” Style (crab, mussel, clams meat, prawns) สำหรับ 2 ท่าน
ราคา 520 เหรียญ ใช้เวลาในการปรุง 20 นาที

Arroz de Marisco à “António” Servido em Tacho de Barro
ในเมนูขยายความว่าเป็น “Wet Seafood Rice” ข้าวต้มทะเล
พอเห็นเมนูนี้แล้วก็นึกถึง Paella (ปาเอย่า) หรือ ข้าวผัดสเปน

African Chicken
ไก่ย่างไฟ แล้วนำไปราดด้วยซอสที่อุดมไปด้วยเครื่องเทศ เช่น กระเทียม หัวหอม พริก ขิง ผัดกับกระทิ

ระหว่างที่ทานข้าวก็มีนักกีตาร์สายไนลอน มาร้องเพลง สร้างสีสรรค์ให้อบอุ่นมากยิ่งขึ้น
Chef Antonio ก็มาร่วมร้องเพลงด้วยครับ บรรยากาศเป็นกันเองมากๆ

Chef Antonio ไม่ได้อยู่ที่ร้านทุกวันนะครับ
ถ้าวันไหนอยู่ที่ร้านก็จะดูแลลูกค้าด้วยตัวเองอย่างดีครับ

ปิดท้ายมื้อนี้ด้วย Crêpe Suzette
ทางร้านจะแสดงการทำ Crêpe Suzette ให้กับทุกโต๊ะที่สั่งเมนูนี้ครับ

ที่มาของ Crêpe Suzette เกิดจากความผิดพลาด
ในการทำปรุงเพื่อถวายว่าที่กษัตริย์แห่งอังกฤษ

ในปี ค.ศ. 1895 Prince Edward of Wales, ว่าที่กษัตริย์แห่งอังกฤษ และพระสหาย
มาทานอาหารกลางวันที่ร้าน Café de Paris in Monte Carlo

ทางร้านได้จัดให้ Henri Charpentier รับหน้าที่เป็นผู้ช่วยเสิร์ฟ
สำหรับเมนูของหวานที่จะถวาย Prince Edward of Wales คือ เครป (Crepes)
พ่อครัวได้เตรียมทุกอย่างไว้พร้อมหมดแล้ว ประกอบด้วย แผ่นเครป และ
ซอสส้ม (orange syrup) ที่มีส่วนผสมของ ผิวส้ม น้ำตาล และเหล้าหลายชนิด

หน้าที่ของ Henri Charpentier คือนำแผ่นเครปลงไปอุ่นในกระทะ จากนั้นก็ปรุงซอสส้มเพื่อราดบนแผ่นเครป
ขั้นตอนนี้ต้องทำต่อหน้าพระพักตร์ และนำถวายทันที

ในระหว่างที่กำลังอุ่นเครป เกิดความผิดพลาด…

ความผิดพลาดนั้นก็คือ…
เมื่อส่วนผสมทั้งหมด “หล่น” ลงไปในกระทะ รวมถึงเหล้าจำนวนมาก
ทำให้เกิดเปรวไฟก้อนใหญ่ลุกพวยพุ่งขึ้นในกระทะ เป็นเวลานาน

ช่วงเวลานั้น Henri Charpentier คิดในใจว่า จะทำใหม่??? หรือ จะถวายทั้งอย่างนี้เลย???
ถ้าจะทำใหม่ก็คงจะไม่ทันการ จึงตัดสินใจถวายนำเครปนั้นถวายต่อ Prince Edward of Wales และพระสหาย

Prince Edward of Wales เสวยเครปด้วยซ้อม และเสวยน้ำซอสที่อยู่ในจานด้วยช้อนจนหมด
และถามว่า เมนูนี้ชื่ออะไร???

Henri Charpentier ตอบไปว่า “Crêpes Princesse”
Prince Edward of Wales จึงกล่าวว่า “เครปจานนี้อร่อยและไม่เคยชิมที่ใหนมาก่อน
เราขอตั้งชื่อเมนูนี้ใหม่ ตามชื่อลูกสาวของพระสหายของเราได้หรือไม่???”

หนึ่งในเมนูสุดคลาสสิก Crêpe Suzette จึงได้ถือกำเนิดขึ้นนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา